ทุกความสำเร็จล้วนเกิดขึ้นได้จากการวางแผนเช่นเดียวกับการปลุกปั้นเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหาหน้าแรก การเริ่มต้นวางกลยุทธ์ SEO ส่วนแรกที่เป็นหัวใจหลักและต้องลงมือทำเพื่อให้ประสบความสำเร็จ คือ การทำ Keyword Research
เป็นการค้นหาและวิเคราะห์คำที่ใช่เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจ คุณต้องหาคำเหล่านี้ให้เจอก่อนเริ่มต้นการทำคอนเทนต์ต่างๆ เพื่อให้มีปริมาณการค้นหามากพอบนเครื่องมือที่เรียกว่า Search Engine ยอดนิยมของยุคนี้คือ google เพื่อให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพและสำเร็จดังที่คาดหวังเอาไว้
Keyword Research คือ
Keyword Research คือ การค้นหา ค้นคว้า หรือวิเคราะห์คำสำคัญต่างๆ ที่กำลังได้รับความนิยมหรือเป็นสิ่งที่ผู้คนต้องการอยากรู้บน google เป็นการไขข้อสงสัยหรือความลับเพื่อนำไปต่อยอดสำหรับการทำ SEO
ทำให้สามารถสื่อสาร ส่งมอบเนื้อหา หรือทำคอนเทนต์ที่ตรงตามกลุ่มเป้าหมายต้องการมากที่สุดจนผู้ใช้งานมองเห็นเว็บไซต์ของเราบนการค้นหาหน้าแรกและดึงดูด Traffic เข้ามามากขึ้น การวิเคราะห์เหล่านี้จะช่วยคัดเลือกคำจากคำที่มีจำนวนมหาศาลออกมาใช้ได้อย่างเหมาะสม Keyword ที่ถูกเลือกมานี้เรียกว่า Targeted Keywords ซึ่งการจะแยกแยะต้องอาศัยความเข้าใจใน Keywords Value เพิ่มเติมด้วย
ประเภทของ Keyword
การจะหา Keyword ที่เหมาะสมกับเว็บไซต์เพื่อนำไปทำ SEO ต่อนั้น เรื่องแรกที่ต้องเข้าใจและเป็นเรื่องสำคัญ คือ ประเภทของ Keyword โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- Short-Tail Keywords : เป็นคำค้นหาแบบสั้น โดยจะเป็นคำเดียวหรือไม่เกิน 4 คำ Keyword ประเภทนี้จะมีเนื้อหาหรือขอบเขตกว้างมาก สำหรับจุดประสงค์ของการค้นหาแบบสั้นอาจอยู่ระหว่างการลังเลหรือตัดสินใจ เช่น เที่ยวเวียดนาม ซึ่งเป็นคำที่กว้างเพราะมีจุดประสงค์แยกออกไปได้หลายทิศทาง
- Long-tail Keywords : การเลือกใช้ Keyword แบบยาวจะให้ความหมายที่มีความเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ทำให้การค้นหาแคบหรือจำกัดลง แต่การเลือก Keyword ประเภทนี้ต้องแลกมากับ Search Volume ที่จะมีจำนวนลดน้อยลงเพราะการค้นหาจะไม่มากเท่ากับ Short-Tail Keywords
ขั้นตอนการหา Keyword
ขั้นตอนการหา Keyword เพื่อให้สามารถสร้างกลยุทธ์ SEO ให้ประสบความสำเร็จและเพิ่มการติดอันดับการค้นหาให้อยู่อันดับแรกๆ สามารถทำตามขั้นตอนได้ดังนี้
- กำหนดเป้าหมาย : การกำหนดเป้าหมายถือเป็นการเริ่มต้นที่สำคัญ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคุณควรทบทวนคำถามสำคัญเหล่านี้ เพื่อที่จะสามารถตอบคำถามและระบุตัวตนของแบรนด์ รวมไปถึง Keyword ที่ต้องการเลือกมาใช้งาน เช่น
- ตัวเราคือใคร
- สินค้าและบริการของเราเกี่ยวกับอะไร
- ความพิเศษที่เหนือกว่าคู่แข่งคืออะไร
- เว็บไซต์ของคุณเกี่ยวข้องกับอะไร
- รวบรวมและจัดหมวดหมู่คำที่เกี่ยวข้อง : การรวบรวมและจัดหมวดหมู่คำจะช่วยให้คุณสามารถหยิบ Keyword ที่ต้องการเลือกใช้ให้สอดคล้องกับแบรนด์มากที่สุด เช่น สินค้าของคุณเกี่ยวข้องกับการบำรุงผิวของผู้หญิง คำที่เกี่ยวข้องอาจเป็น
- บำรุงผิวกระจ่างใส
- ลดรอยสิว จุดด่างดำ
- เจลล้างหน้าผู้หญิง
- สร้าง Keyword หลัก : เมื่อรวบรวมคำและจัดหมวดหมู่เรียบร้อยแล้ว คุณสามารถนำคำที่มีมากำหนด Keyword หลักที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณได้ ซึ่งสิ่งที่สำคัญ คือ คำที่เลือกใช้ต้องตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่อาจค้นหาใน google
- กำหนด Long-Tail Keywords : คำหลักมักเป็นคำค้นหาที่สั้นซึ่งเกี่ยวกับหมวดหมู่สินค้าหรือบริการของคุณ แต่ Long-Tail Keywords จะให้ความหมายที่เจาะจงและตรงกับความต้องการที่สุด
- ค้นหาเกี่ยวกับคู่แข่ง : การทำ Keyword Research อาจไม่เพียงพอ คุณควรเพิ่มการสำรวจสิ่งที่คู่แข่งกำลังดำเนินการ การทำความเข้าใจถึงคำที่สามารถแข่งขันได้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณหา Keyword จากช่องว่างเหล่านั้นเพื่อเพิ่มโอกาสการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จเหนือคู่แข่งมากขึ้น
เครื่องมือสำหรับการทำ Keyword Research
เพื่อให้การทำ Keyword Research เป็นเรื่องง่ายเครื่องมือที่จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ มีความสำคัญอย่างมากสำหรับคนทำงาน SEO วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักเครื่องมือซึ่งได้รับความนิยมและเหมาะสมกับการทำ Keyword Research ดังนี้
- Ahrefs : ถือเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมตลอดกาลสำหรับ SEO Specialists เพราะสามารถใช้งานได้หลากหลาย นอกจากจะช่วยดู Keywords Idea ยังดูข้อมูล On-Page และ Off-Page ได้อีกด้วย
- Google Keywords Planner : สำหรับคนทำ SEM เครื่องมือนี้ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ Keywords โดยการทำงานจะช่วยสนับสนุน Google Ads ผู้ทำ SEO สามารถนำมาปรับใช้เพื่อดู Search Volume ถือเป็นเครื่องมือยุคแรกๆ ที่เหล่า SEO Specialists นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
- Ubersuggest : เป็นเครื่องมือที่เปิดให้ทดลองใช้ได้ฟรี โดยสามารถเข้าดู Keywords ที่เป็นข้อมูลในระดับพื้นฐานได้ เหมาะกับ SEO Specialists มือใหม่ที่ยังไม่เคยทดลองใช้เครื่อมืออื่นๆ และต้องการฝึกฝีมือในการทำ SEO
- Keywordtool : เครื่องมือการวิเคราะห์หา Keywords นี้ ทำงานคล้ายกับ Google Keywords Planner เรียกได้ว่าแทบจะใช้ทดแทนกันได้เลย หาก Google Ads เกิดข้อขัดข้องเครื่องมือนี้ถือเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดตัวหนึ่ง
Keyword ที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร
การทำ Keyword Research มีหลักสำคัญ คือ การเลือก Keyword ที่นำมาใช้กับการทำ SEO ควรมีลักษณะดังต่อไปนี้
- ต้องมี Search Volume ในปริมาณที่มากพอ ยิ่ง Keyword ที่เลือกมามียอดการค้นหามากเท่าไรถือว่าคำนั้นเป็นคำที่มีคุณภาพ แต่ถ้ายอดการค้นหาน้อยนั้นย่อมเกิดผลเสียอย่างแน่นอน
- Keyword ที่เลือกมาใช้งานนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาที่ถูกหลักเสมอไปหรือไม่จำเป็นต้องบ่งบอกถึงสินค้าหรือบริการของเราแบบตรงๆ สิ่งที่สำคัญ คือ Search Volume ต้องสูงถึงจะแสดงว่าคำนี้เป็นคำค้นหาที่ดี
- Keyword ที่ดีต้องสามารถแข่งขันได้ เพราะเมื่อเราเลือกคำๆ นี้มาใช้แล้วย่อมต้องหวังถึงการติดอันดับการค้นหาบน google ซึ่งการแข่งขันอาจต้องมีการใช้ Keyword Research Tools มาช่วยวิเคราะห์
- Keyword ที่ดีต้องมีการค้นหาอยู่เสมอ ไม่ใช่คำที่ติดอันดับตามกระแสและเมื่อจบลงการค้นหาก็หายไปด้วย
- Keyword ที่เลือกมาใช้งานนั้นหากเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการมากเท่าไรจะช่วยเพิ่มโอกาสและจบการขายได้ง่ายขึ้น
สรุป
การทำ Keyword Research ถือเป็นหัวใจหลักที่ช่วยคัดกรอง Keyword ทั่วไปที่มีอยู่บนโลกออนไลน์อย่างมหาศาลให้เหลือคำที่ตรงและโดนใจกลุ่มเป้าหมาย ที่สำคัญคำนั้นต้องตอบโจทย์และเหมาะสมกับธุรกิจเพื่อให้สามารถนำไปทำ SEO ต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการปรับปรุงเนื้อหาบนเว็บไซต์หรือการทำคอนเทนต์ต่างๆ ให้ออกมาตามหลักการของ Search Engine อย่าง google เพื่อให้เกิดการสองเห็นและจัดอันดับที่ดีขึ้น เมื่อเว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาแรกนั้นหมายถึงจำนวนผู้เข้าชมที่จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยถือเป็นจุดที่การทำ SEO ประสบความสำเร็จตามวัตุประสงค์ที่ตั้งไว้