Branding คืออะไร วิธีการสร้างแบรนด์สำหรับการแข่งขันทางธุรกิจ

branding คือ

ปัจจุบันการแข่งขันทางด้านธุรกิจมีความรวดเร็วและรุนแรงมากขึ้นทั้งจากในประเทศและทั่วทุกมุมโลก ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี สื่อ social media และแพลตฟอร์มต่างๆ ทำให้เจ้าของธุรกิจต้องปรับตัวอยู่เสมอ หากต้องการให้สินค้าหรือบริการมีเอกลักษณ์ มีความแตกต่าง และมีจุดเด่นที่ทำให้ผู้บริโภคนึกถึง

การทำ Branding เป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้ผลดีตั้งแต่ยุคสื่อเก่าเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน การสร้างแบรนด์เปรียบเสมือนการสร้างภาพจำของธุรกิจค่อนข้างมีความเป็นนามธรรม เพราะต้องเล่นกับความรู้สึกของผู้บริโภคแต่หากทำสำเร็จจะสร้างความโดดเด่นของธุรกิจขึ้นมาได้

Branding คือ

Branding คือ การออกแบบ หรือการสร้างภาพลักษณ์ของธุรกิจออกสู่สายตาของผู้บริโภคเพื่อให้เกิดภาพจำ ถือเป็นการทำการตลาดอีกรูปแบบหนึ่งในยุค 4.0 การสร้างแบรนด์ที่ดีจะทำให้ธุรกิจของเราเกิดความแตกต่างจากคู่แข่ง

ซึ่งการสร้างแบรนด์ไม่ใช่เพียงแค่การออกแบบโลโก้ หรือการทำกิจกรรมโปรโมตผ่านสื่ออย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ยังรวมถึงการบริการของพนักงาน ความเอาใจใส่ การบริการหลังการขาย สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของบริษัทด้วยเช่นกัน สำหรับวัตถุประสงค์หลักของการสร้าง Branding ก็เพื่อสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจว่าเราต้องการขายอะไร และมีจุดเด่นใดบ้างที่แตกต่างจากผู้อื่น

ความสำคัญของ Branding

การสร้าง Branding เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้บริษัทสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ง่ายขึ้นและใช้ระยะเวลาสั้น ภาพจำของแบรนด์มีส่วนสำคัญที่ทำให้สินค้าและบริการแตกต่างจากคู่แข่งอื่นๆ ในช่วงเริ่มต้นการสร้างแบรนด์อาจมีความยากลำบากและต้องใช้เวลานานกว่าจะดึงดูดลูกค้าได้ แต่ผลในระยะยาวที่จะได้รับนั้นมีความคุ้มค่าอย่างแน่นอน สำหรับความสำคัญของ Branding มีดังนี้

  1. ช่วยส่งเสริมการขายให้ง่ายและเร็วขึ้น

แบรนด์เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องการตลาด แบรนด์ที่ดีจะช่วยส่งเสริมการขายและสร้างภาพลักษณ์ให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย เช่น หากต้องการซื้อโทรศัพท์มือถือแน่นอนว่า iPhone เป็นแบรนด์ที่เกือบทุกคนนึกถึงและเลือกซื้อ เนื่องจากมั่นใจว่าสินค้ามีคุณภาพดีและมีความน่าเชื่อถือ ดังนั้น จะเห็นว่าแบรนด์ที่ติดตลาดอยู่แล้วการทำโฆษณาและการขายสินค้าจะง่ายขึ้น หากใครที่กำลังจะเริ่มธุรกิจควรวางแผนการทำแบรนด์ไว้ตั้งแต่ต้นเพราะแบรนด์ที่ดีจะนำความสำเร็จมาให้ธุรกิจอย่างแน่นอน

  1. สร้างความโดดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่ง

การจะเลือกซื้อสินค้าหรือบริการสักอย่างบ่อยครั้งเรามักจะพบกับคำถามประมาณว่า “ซื้อแบรนด์นี้ดีไหม” “ทำไมต้องซื้อของแบรนด์นี้” คำถามเหล่านี้จะหมดไปหากแบรนด์ของคุณสามารถสร้างความโดดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่ง และถึงแม้ว่าสินค้าหรือบริการของคุณจะแพงกว่าเจ้าอื่นแต่ผู้บริโภคก็ยังมีความเต็มใจที่อยากจะจ่าย เพราะในความรู้สึกของผู้บริโภคความแตกต่างแปลว่าเป็นของหายากและเหมาะสมที่จะจ่ายเงินซื้อสินค้าหรือบริการนั้นๆ

  1. ได้ฐานลูกค้าในระยะยาว

การสร้างแบรนด์นอกจากจะช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ได้แล้ว สำหรับลูกค้าเก่าแบรนด์ที่ดียังสามารถเชิญชวนให้กลับมาซื้อซ้ำได้ การกลับมาซื้อสินค้าหรือบริการซ้ำนั้นหมายถึงลูกค้าให้ความสำคัญและเห็นว่าสินค้าของเรามีคุณภาพ มีความคุ้มค่าที่จะจ่ายเงินซ้ำๆ โดยไม่นอกใจไปซื้อกับเจ้าอื่น เรามักจะได้ยินคำกล่าวที่ว่า การดึงดูดลูกค้าใหม่ทำได้ง่ายแต่การจะรักษาฐานลูกค้าเก่าในระยะยาวนั้นยากกว่า ดังนั้น การพัฒนาและปรับปรุงแบรนด์อยู่เสมอมีส่วนช่วยให้สินค้าหรือบริการมีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

ขั้นตอนการสร้าง Branding

สำหรับผู้เริ่มต้นทำธุรกิจหรือเจ้าของที่มีธุรกิจอยู่แล้วและกำลังสนใจอยากสร้างแบรนด์เพื่อให้สินค้าหรือบริการที่มีอยู่เป็นที่รู้จักของตลาดในวงกว้าง วันนี้เราขอแนะนำขั้นตอนง่ายๆ ในการสร้าง Branding รับรองว่าเมื่อคุณอ่านจบการสร้าง Branding จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

  1. วิเคราะห์ลูกค้า

การวิเคราะห์ลูกค้าถือเป็นหัวใจหลักและเป็นสิ่งแรกที่ควรทำก่อนการสร้าง Branding เพราะการรู้ความต้องการหรือความชอบของลูกค้ามีส่วนช่วยให้การสร้างแบรนด์ประสบความสำเร็จ วิธีการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าอาจทำในรูปแบบการทำแบบสอบถาม การสังเกตความต้องการผ่านสื่อออนไลน์ หรือดูสถิติการซื้อสินค้าที่เหมือนของเราจากแบรนด์อื่น ข้อมูลเหล่านี้จะทำให้เรารู้จักลูกค้ามากขึ้นและสามารถสร้างแบรนด์ได้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

  1. วาง Position

คือ การกำหนดลักษณะของสินค้าหรือบริการให้ชัดเจน เพื่อให้สื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ความชัดเจนของสินค้าหรือบริการจะทำให้เกิดความสามารถในการแข่งขันกับแบรนด์อื่นที่มีในตลาด โดยกำหนดตำแหน่งทางการตลาดได้โดย

  • กำหนดตำแหน่งจากประโยชน์ เช่น แก้ไข แก้ปวดหัว
  • กำหนดตำแหน่งจากผู้ซื้อ เช่น สินค้าหรือบริการสำหรับผู้สูงอายุ
  • กำหนดตำแหน่งจากราคาหรือคุณภาพของสินค้าหรือบริการ
  1. สื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย

การสื่อสารเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญสำหรับการทำ Branding นักการตลาดจะต้องมีการวางแผนที่ดีว่าจะสื่อสารสินค้าหรือบริการที่มีอยู่ผ่านช่องทางไหนให้ผู้บริโภคได้รับรู้และเข้าใจว่าแบรนด์ของเราขายสินค้าประเภทใดและมีจุดเด่นกว่าเจ้าอื่นอย่างไรบ้าง ปัจจุบันช่องทางการสื่อสารที่นิยมใช้มากที่สุด คือ การสื่อสารบนโลกออนไลน์ เช่น Facebook YouTube หรือ Instagram เป็นต้น

  1. สร้างภาพลักษณ์

หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการสร้าง Branding คือ การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าหรือบริการเพียงอย่างเดียว แต่แท้ที่จริงแล้วการสร้าง Branding ยังรวมไปถึงภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรตั้งแต่ผู้บริหารไปจนถึงพนักงานทุกคน การให้ผู้บริโภคจดจำการบริการที่ดี การช่วยเหลือแก้ไขปัญหา หรือการรับมือกับคำวิจารณ์และพร้อมนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นตัวเสริมและถือเป็นอีกตัวแปรที่สำคัญของการสร้าง Branding เลยทีเดียว

ความแตกต่างระหว่าง Branding กับ Marketing

หลายคนอาจยังมีความคิดว่าการทำ Branding กับ Marketing มีความคล้ายกันแต่แท้จริงแล้วมีความแตกต่างกันแต่ก็ยังคงเชื่อมโยงกันแบบขาดไม่ได้ หากจะให้สรุปความแตกต่างระหว่าง Branding กับ Marketing แบบง่ายๆ สามารถสรุปได้ดังนี้

Branding

  • กระตุ้นโดยใช้อารมณ์
  • กลยุทธ์
  • สร้างให้เห็นคุณค่า
  • มีความซื่อสัตย์
  • การสร้างใช้ระยะเวลายาวนาน
  • คุณคือใคร
  • ดึงดูดลูกค้า

Marketing

  • กระตุ้นโดยเหตุผล
  • กลวิธี
  • การตอบสนอง
  • การสร้างใช้ระยะเวลาสั้น
  • คุณทำอะไร
  • สื่อสารข้อมูลถึงลูกค้า

สรุป

การสร้าง Branding ไม่ใช่เรื่องยากและเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของธุรกิจควรให้ความสำคัญ การจะทำให้สินค้าหรือบริการของเราสามารถยืนหยัดอยู่ได้ในยุคที่การแข่งขันทางด้านธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง มีเพียงการทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้างและโดดเด่นออกมาท่ามกลางธุรกิจที่มีคู่แข่งในตลาดจำนวนมาก ข้อเสียของการสร้างแบรนด์ คือ อาจใช้เวลานานกว่าจะติดตลาดแต่ก็ขึ้นอยู่กับทักษะของนักการตลาดและเงินทุนที่มี หากมีความใส่ใจ อดทนทำอย่างต่อเนื่อง และพยายามสื่อสารให้ผู้บริโภคได้รับรู้ เชื่อแน่ว่าไม่ว่าธุรกิจไหนก็สามารถสร้างแบรนด์ให้สำเร็จได้