อันดับ Google ตก แก้ไขอย่างไร? แนะนำวิธีรักษาอันดับอย่างถูกต้อง

อันดับ Google ตก

ถ้าอันดับร่วง เราจะรักษาอันดับได้อย่างไร? และถ้าอันดับร่วงแล้ว จะทำให้อันดับกลับขึ้นมาได้อย่างไร?

จุดแรกพวกเราต้องทำความเข้าใจก่อน ไม่มีเว็บไหนที่จะสามารถติดอันดับ 1 ได้ตลอดกาล

และทุกคอนเทนต์บนเว็บของเรามันจะมี content lifecycle (ช่วงอายุของคอนเทนต์)
คือ ทุกคอนเทนต์

ถ้าเราปล่อยทิ้งไว้ โดยไม่ทำอะไรเลย มันจะมีวันหมดอายุเสมอ

และแน่นอนไม่มีใครสามารถทำ seo ให้ติดอันดับ 1 ได้ทุก keyword

บาง key เราก็ทำสำเร็จ บาง key เราก็ทำไม่สำเร็จ เป็นเรื่องปกติ

แต่สำหรับผมมี 1 keyword ที่ผมจะแพ้ไม่ได้ นั้นก็คือคำว่า “สอน SEO”

เพราะถ้าคำนี้ของผมไม่ติดอันดับ 1 ถือว่าเสียฟอร์มนั้นเอง

โดยธรรมชาติของคนทำ SEO ถ้ามันติดอันดับ 1 อยู่แล้ว แสดงว่าเนื้อหามันดีอยู่แล้ว อย่าไปยุ่ง หรือไปแก้ไขอะไรกับมัน

คือ อย่าไปแก้เนื้อหาเยอะ ถ้าอยากให้มันเคลื่อนไหว ให้แก่นิดหน่อยพอ เช่น แก้พวกตัวเลขปี เป็นต้น

แต่แน่นอนเมื่อเวลาผ่านไป ทุกวงการ ก็ต้องมีเว็บใหม่ๆ เกิดขึ้นมา หรือเว็บเก่าๆ เขาก็ต้องทำเนื้อหาใหม่ มาแข่งขันกับเรา เป็นเรื่องปกติ

และ Google นั้นย่อมมองหา ข้อมูลสดใหม่อยู่เสมอ ถ้าเว็บใหม่ๆ สามารถทำเนื้อหาได้ดี ก็สามารถทำอันดับแซงเราได้

ดังนั้น เมื่อมีสัญญาณว่า เว็บเรากำลังอันดับร่วง จาก 1 ลงมา 2 จาก 2 ลงมา 3 หรือต่ำกว่านั้น

ถ้าอันดับพึ่งร่วง เราอย่าพึ่งทำอะไร เราต้องวิเคราะห์ก่อน ร่วงเพราะเว็บคู่แข่งเขาทำมาดีกว่าเรา หรือร่วงเพราะ Google กำลังทดสอบอัลกอริทึ่ม

ดังนั้นจุดนี้เราต้องใจเย็นๆ ทุกครั้งที่อันดับร่วง ให้เราอดทนดูสถารณ์ต่อไปอีกสัก 1 สัปดาห์เสมอ

ถ้ามันเป็นเพราะ Google กำลังปรับปรับปรุงอัลกอริทึ่ม พอ อัลกอริทึ่ม นิ่ง เว็บเราก็จะกลับมาตำแหน่งเดิม

แต่ถ้า เราเข้าไปส่องดูเว็บคู่แข่ง แล้วรู้สึกว่า เขาทำเนื้อหาดี รูปสวย ข้อมูลแน่น on page ครบ ตัวเว็บคู่แข่งมีบทความเยอะ

แบบนี้อาจเป็นไปได้ว่า เราอันดับร่วง เพราะคู่แข่งเขาทำเนื้อหามาดีกว่าเรา แบบนี้เราอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ต้องแก้เนื้อหา ให้มันดีขึ้นตาม

หลักการปรับปรุงเนื้อหา

  1. เช็กตัวเองก่อน ว่าหน้านั้นที่เราติดอันดับ ติดอันดับ เพราะโชคดี หรือติดอันดับเพราะเราทำเนื้อหาดี เนื้อหาดี ต้องมีองค์ประกอบดังนี้ คือ เนื้อหาแน่น on page ครบ รูปภาพประกอบน่าสนใจ นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าอยากรู้ไว้ด้านบนๆ
  2. ถ้าเราคิดว่าเราทำเนื้อหามาดีแล้ว แต่ถ้าเราติดอันดับมาอย่างต่อเนื่องสักระยะ อาจจะเกิน 6 เดือนแล้ว แสดงว่าเนื้อหาของหน้านั้น มันหมดอายุไข ถึงเวลาที่ต้องอัพเดทแล้ว
  3. ดูเว็บคู่แข่งที่ติดอันดับ 1-5 ไล่ดูแต่ละเว็บมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เช่น เว็บหน้าใหม่ เนื้อหาแน่น เว็บเก่าแต่ทำเนื้อหาใหม่
  4. ปรับปรุงเนื้อหา ถ้าเนื้อหาเราสั้นไปก็เติมให้ยาวขึ้น แต่การเติมเนื้อหาต้องเติมแบบกระจาย คือ เติมช่วงบน ช่วงกลาง และช่วงด้านล่าง ไม่ใช่แค่ไปเติมต่อด้านล่างให้ยาวขึ้นอย่างเดียว
  5. เปลี่ยนรูปภาพใหม่ ภาพเก่าไม่สวย ก็ออกแบบใหม่ เติมรูปภาพที่จะสามารถหยุดสายตาคน เพิ่มลงไป หรือรูป infographic อะไรก็ได้ลงไปแต่ต้องทำให้มันดูน่าสนใจ
  6. เติมบทความที่เกี่ยวข้องใหม่ๆ เพิ่มเข้าไปและต้องทำลิงค์เชื่อมโยง ที่เป็นคำ Keyword หลักส่งกลับไปหาหน้าหลักของ key นั้นด้วย
  7. ปรับปรุงบทความเก่าๆ บนเว็บ ให้มีการเคลื่อนไหวด้วย และดูว่าบทความไหนที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคำหลัก ก็ไปทำลิงค์เชื่อมโยงส่งมาเพิ่ม
  8. เช็คเนื้อหาบนเว็บ หน้าไหนที่มีเนื้อหา หรือใช้ keyword ซ้ำซ้อนกัน และหน้าไหน ไม่ได้ติดอันดับ หรือไม่มี traffic ให้ทำ canonical ส่งมาหน้า key หลักให้หมด
  9. ปรับปรุง off page เพื่อเรียก bot ให้เขามาเก็บใหม่ ก็คือ หาโดเมนใหม่ๆ ทำ backlink ส่งกลับมาหน้า key หลัก
  10. หรือ ใช้พลังจาก social เช่น Facebook หรือ Line ให้เอาหน้าหลักนั้นไปโพสซ้ำใน social หรือทำคอนเทนต์ใหม่ แต่ในคอนเทนต์ในให้วาง url หน้าหลักของเราด้วย คือทำยังไงก็ได้ ให้มีคนให้คลิกกลับมายังหน้าหลักบนเว็บของเราให้ได้
  11. ทำวนไปเรื่อยๆ ที่เหลือคือรอเวลา และต้องใช้ความใจเย็นๆ การแก้เนื้อหาหน้าหลัก ไม่ใช่แก้ปุ๊บอันดับจะกลับมาทันที ทุกครั้งที่มีการแก้ไขให้หยุดรอสัก 1-2 สัปดาห์เสมอ ระว่างรอ ก็ให้ทำบทความ ทำลิงค์เชื่อมโยง และทำ off page seo วนไปเรื่อยๆ อย่างเดียว


สำหรับเว็บผมเอง ผมก็ต้องใช้เวลาร่วมๆ 3 เดือน กว่าจะขยับอันดับกลับมาที่ 1 อีกครั้งได้

และหากคุณลงมือทำตามคำแนะนำด้านบน

แม้ว่าบางครั้ง keyword สำคัญๆ ของคุณจะไม่ได้ติดอันดับ 1 แต่หากเราทำเว็บให้เคลื่อนไหว มีการเติมบทความอยู่ตลอด จะทำให้อันดับ ร่วงจากหน้าแรกได้ยากขึ้น คือ ยังสามารถติดอันดับหน้าแรกต่อไปได้อีกหลายเดือนนั้นเอง

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการทำ SEO ที่ถูกต้องที่บทความนี้ได้เลยครับ

https://padveewebschool.com/learn-seo-free/